การเล่นพนันอย่างบาคาร่า ทำให้หลายคนหันมาเกาะติดกระแสนี้ด้วยความตื่นตัว ห่วงใยคนในครอบครัว และหวั่นเกรงว่าคนใกล้ชิดจะเกาะติดกระแสนี้ในทางที่ผิดจนเป็น
“โรคติดพนัน” ก่อให้เกิดปัญหาหนี้สิน เพราะไม่กล้าบอกคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดให้รู้ ไปขอยืมเงินจากคนอื่นแทน และอาจทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมหลายหลากรูปแบบตามมา
รวมไปถึงพฤติกรรมการลักขโมย การค้ายาเสพติด การค้าประเวณี การทำร้ายตัวเอง และฆ่าตัวตาย
Pathological Gambling คืออะไร
องค์การอนามัยโลกกำหนดให้พฤติกรรมติดการพนันเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง
เรียกว่า “พาโธโลจิคอล แกมบลิ้ง” (Pathological Gambling) ซึ่งถึงแม้เจ้าตัวรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งผิด
หรือส่งผลร้ายต่อชีวิต เช่น การเงิน การเรียน สุขภาพ หรือสังคม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไม่ทำ คล้ายการติดสารเสพติด มีจิตใจจดจ่ออยู่กับการพนันตลอดเวลา
ไม่สามารถคิด หรือทำอย่างอื่น มีแต่ความโหยหาอยากเล่น ยากที่จะควบคุม ในที่สุดก็เล่นการพนันต่อโดยไม่ยั้งคิด พฤติกรรมพวกนี้คล้ายพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ
ซึ่งต้องได้รับการบำบัดรักษา โดยในรายที่มีอาการมาก อาจต้องให้ยาลดการย้ำคิดย้ำทำ จากนั้นต้องพาไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ให้มีการเล่นพนัน
รวมถึงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการควบคุมตัวเอง หางานอดิเรกให้ทำ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับครอบครัว
ผลวิจัยจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบผลเสียหายด้านสุขภาพจิต คือ คนติดพนันมีปัญหาความผิดปกติด้านอารมณ์
แบบโรคซึมเศร้าแบบขั้วเดียวถึง ร้อยละ 70 และความผิดปกติด้านอารมณ์รุนแรงสลับไปมา 2 ขั้ว ร้อยละ 30 ผลเสียหายจากการติดพนันอย่างหนัก
คือ การคิดเรื่องฆ่าตัวตายและพยายามฆ่าตัวตายราว ร้อยละ 17-24 ของคนติดพนันอย่างหนักมีการพยายามฆ่าตัวตายครั้งหนึ่งในชีวิต
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นทันทีหลังจากเล่นสูญเสียเงินจำนวนมากและผลเสียด้านสุขภาพจิตอีกเรื่อง คือ การสร้างและคงรักษาไว้ซึ่งกระบวนการรู้คิดที่บิดเบือน
เกี่ยวกับการเล่นการพนัน เช่น การคิดว่าตัวเองมีทักษะการเล่นพนันแบบเอาชนะได้ เชื่อว่าโอกาสแพ้ชนะมี 50-50 ทั้งที่ความจริงแล้วการพนันหลายอย่าง
การชนะมีเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าการแพ้หลายเท่ามาก ฯลฯ
สาเหตุการติดการพนัน
สาเหตุของการติดการพนันมี 2 สาเหตุใหญ่ ประการแรก คือ เกิดจากตัวเอง อาจมีปัญหาในการควบคุมตัวเอง (Self-Control) อยู่แล้ว
เพราะโดยปกติแล้วคนเราต้องมีการควบคุมตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงิน การใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้อินเทอร์เน็ต และการใช้เวลาไปกับความบันเทิงเริงใจหรือกิจกรรมที่ไม่มีประโยชน์
แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของการควบคุมตัวเองอย่างมาก อาจมีความเสี่ยงติดการพนันได้มากกว่า สาเหตุประการที่สอง คือ
กระแสสังคมและการโฆษณา อาจทำให้หลงใหลไปกับคำโฆษณาชวนเชื่อว่าหาเงินได้โดยง่าย โดยเฉพาะการเล่นพนันอย่างบาคาร่า
โฆษณาจะชักชวนให้ได้ลองเล่นโดยเริ่มต้นลงทุนเพียงหลักสิบบาทเท่านั้น
รู้ได้อย่างไรว่าเล่นการพนันถึงขั้นติดแล้ว?
สมาชิกในครอบครัวและคนรอบข้างต้องคอยสังเกตพฤติกรรมคนใกล้ชิดของเราว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เช่น การเรียน การงานเสียไปไหม
แยกตัวออกไปจากกลุ่มหรือเปล่า หมกมุ่นอยู่กับอะไรเป็นพิเศษ และช่วยตักเตือนให้เขารู้จักเตือนตัวเองและควบคุมตัวเองในการเสพสื่อที่เหมาะสม
เพราะปัจจุบันมีสิ่งต่างๆ มากมายที่จะเข้ามายั่วยุและชวนเชื่อ
สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าช่ายเสพติดการพนันหรือไม่ สามารถใช้แบบคัดกรองการติดการพนันแบบง่ายๆ ประกอบด้วยข้อคำถาม 20 ข้อ โดยหากตอบ “ใช่” ตั้งแต่ 7 ข้อขึ้นไปแสดงว่ามีแนวโน้มที่จะมีปัญหาการเล่นการพนัน
1. เวลางานหรือเวลาเรียนของคุณเสียหายเพราะการพนัน
2. การเล่นการพนันของคุณเคยทำให้ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุข
3. การเล่นการพนันของคุณเคยทำให้คุณเสื่อมเสียชื่อเสียง
4. คุณเคยรู้สึกสำนึกผิดหลังจากเล่นการพนัน
5. คุณเคยเล่นการพนันเพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้พนันหรือแก้ปัญหาการเงิน
6. การพนันทำให้ความสามารถต่างๆในตัวคุณมีประสิทธิภาพน้อยลง
7. หลังจากเสียพนัน คุณรู้สึกว่าต้องกลับมาเล่นอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดและต้องเอาคืนของที่เสียไป
8. หลังจากชนะพนัน คุณมีความต้องการอย่างรุนแรงที่จะเล่นอีกครั้งและเอาชนะให้มากขึ้น
9. บ่อยครั้งที่คุณเล่นพนันจนกระทั่งเหลือสตางค์สุดท้าย
10. คุณเคยยืมเงินเพื่อนำมาเป็นทุนในการเล่นพนัน
11. คุณเคยขายของใดๆ เพื่อนำมาเป็นทุนในการเล่นพนัน
12. คุณไม่เต็มใจที่จะใช้เงินจะใช้พนันไปใช้ในการจับจ่ายใช้สอยอย่างอื่น
13. การพนันทำให้คุณไม่ใส่ใจต่อความเป็นอยู่ของตัวคุณเองหรือครอบครัวของคุณ
14. คุณเคยเล่นการพนันนานกว่าที่คุณวางแผนไว้
15. คุณเคยเล่นการพนันเพื่อหลีกหนีจากความกังวลหรือปัญหาอื่น
16. คุณเคยกระทำหรือคิดจะกระทำผิดกฎหมายเพื่อนำเงินไปใช้เป็นทุนในการพนัน
17. การพนันทำให้คุณนอนหลับยากขึ้น
18. การโต้เถียงกัน ความผิดหวัง หรือ ความรู้สึกอึดอัด ส่งผลให้คุณเกิดความอยากไปเล่นการพนัน
19. คุณเคยมีความรู้สึกอยากฉลองเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยการไปเล่นพนันสักสองสามชั่วโมง
20. คุณเคยทำร้ายตนเองหรือพยายามฆ่าตัวตายอันเป็นผลมาจากการพนันของคุณ
เล่นการพนันขั้นไหนถึงต้องรักษา
อาการหรืออาการแสดงของการติดการพนันตามเกณฑ์การวินิจฉัยของ American Psychiatric Association มีดังนี้
ชนิดของพฤติกรรม
การพนัน
|
จุดประสงค์
การพนัน
|
จำนวนเงินที่เสีย
ในการพนัน
|
จำนวนเงินที่ใช้
เพื่อพนัน
|
การรักษา
|
ติดการพนัน
(pathological gambler)
|
ความสุข ตื่นเต้น
หนีปัญหา
|
คาดเดาไม่ได้ |
ควบคุมไม่ได้ |
ต้องรักษา |
มีปัญหาจากการพนัน
(problem gambler)
|
ความสุข ตื่นเต้น
หนีปัญหา
|
คาดเดาไม่ได้ |
ควบคุมไม่ได้ |
ควรพามาประเมิน |
ผู้เล่นพนันที่ดูเสี่ยงจะติด
(at-risk gambler)
|
ความสุข ตื่นเต้น
หนีปัญหา
|
คาดเดาไม่ได้ |
ควบคุมได้พอใช้ |
ควรพามาประเมิน |
นักพนันมืออาชีพ
(professional gambler)
|
หารายได้เลี้ยงตนเอง |
ควบคุมและคาดเดาได้ |
ควบคุมได้
อย่างยอดเยี่ยม
|
ไม่จำเป็น |
การช่วยเหลือทำได้อย่างไรบ้าง
ส่วนในกรณีที่พบว่าคนใกล้ชิดมีพฤติกรรมติดพนันแล้ว ก็มีแนวทางช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนสายเกินไป ดังนี้
สิ่งที่ควรปฏิบัติ
• นึกถึงสิ่งดีๆ หรือศักยภาพในตัวเขา
• ให้มีสติ ใจเย็น เมื่อพูดคุยถึงการติดการพนันของเขาและผลกระทบที่ตามมา
• บอกเขาว่า คุณเองที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของเขา
• ดูแลด้านจิตใจและสังคมให้เขาเป็นพิเศษ แนะนำให้เขาทำกิจกรรมที่ได้ระบายความเครียด ความก้าวร้าวในตัวออกไป เช่น การเล่นกีฬา
• จัดตารางเวลาการตื่นนอนและการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสม
• กำหนดขอบเขตการบริหารเงิน ควบคุมค่าใช้จ่ายของครอบครัว เช่น บัญชีเงินฝาก บัตรเครดิต
• อธิบายเกี่ยวกับปัญหาติดพนันให้เขาเข้าใจ สื่อสารให้เขาตระหนักรู้ว่าตัวเองมีความผิดปกติ จำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาและพบแพทย์ก่อนมีปัญหาร้ายแรง
• เข้าใจว่าโรคติดพนันต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษา
• ติดตามผลว่าเขามีปัญหาทางด้านอารมณ์หรือไม่ ในรายที่ไม่ได้เล่นการพนัน แล้วมีอาการหงุดหงิด ก้าวร้าว ซึมเศร้า ต้องรีบปรึกษาแพทย์
• พาไปพบผู้เชี่ยวชาญ
สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ
• ตำหนิ บ่น หรือ ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ
• ตัดเขาออกจากครอบครัวหรือกิจกรรมของครอบครัว
• คาดหวังว่าเขาจะหายจากการติดพนันในทันทีเมื่อหยุดเล่นพนัน
• ใช้หนี้แทน แก้ปัญหาหนี้สินให้ หรือประกันตัวเขาเมื่อมีปัญหาหนี้สิน
• ปิดบัง หรือไม่ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของตัวเองและครอบครัว
รักษาอย่างไร
แนวทางการรักษามักใช้วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Behavioral therapy) การให้คำปรึกษา (Counseling) หรือการเปลี่ยนแนวคิด (Cognitive Therapy) และอาจให้เข้าร่วมกลุ่มเพื่อให้การสนับสนุนและให้กำลังใจในการเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นการพนัน ร่วมกับการรักษาด้วยยา ซึ่งให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ควรรักษาโรคอื่นที่พบร่วมกับการติดการพนัน เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และการติดสารเสพติดชนิดอื่น เช่น เหล้า บุหรี่ จะช่วยให้การติดการพนันดีขึ้นได้
อ้างอิงข้อมูลจาก
• ติดพนัน ภัยร้ายที่ยังป้องกันได้ โดย นายแพทย์วศิน บำรุงชีพ จิตแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสุราและยาเสพติด โรงพยาบาลมนารมย์
• เสพติดพนัน...ความใหญ่โตของปัญหาและแนวทางแก้ไข โดย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• รอบรู้เรื่องสุขภาพจิตผู้ใหญ่ ปัญหาติดการพนัน โดย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• What is Gambling Disorder? โดย American Psychiatric Association