ความเครียดจากการออกกำลังกายมากเกินไป


นริศรา พิณทอง
(นักกายภาพบำบัด) โรงพยาบาลมนารมย์

การออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยเผาผลาญพลังงานทำให้ไม่อ้วน และเป็นการดูแลสุขภาพโดยรวมที่ดีในระยะยาว และช่วยลดความเครียดได้ โดยมีงานวิจัยมากมายที่สนับสนุนข้อมูลนี้ แต่ในทางกลับกันการออกกำลังกายที่มากเกินกว่าร่างกายจะรับได้ก็ให้โทษกับร่างกายได้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจาก


1) ทัศนคติ “ยิ่งออกกำลังกาย ยิ่งดี ยิ่งเห็นผลไว” ทำให้เกิด


- การปรับเพิ่มความหนัก ของการออกกำลังกายมากเกินไป เช่น ต้องการลดความอ้วน โดยการเผาผลาญแคลอรี่ให้มากขึ้น จึงปรับเพิ่มความเร็วและความชันของลู่วิ่ง เมื่อร่างกายปรับตัวไม่ดีพอ จึงเกิดความเครียดต่อร่างกายตามมา


- การปรับเพิ่มความถี่ สูงกว่าระดับที่เหมาะสมกับร่างกาย โดยไม่เว้นระยะเวลาให้ร่างกายฟื้นตัวและผ่อนคลายอย่างเพียงพอ ทำให้เกิดความเครียดต่อร่างกาย


- การปรับเพิ่มปริมาณการฝึก ฝึกยกน้ำหนักต่อเนื่อง 2 – 3 อย่างภายในครั้งเดียว จนร่างกายเกิดความเครียด


เครียดจากการออกกำลังกาย


2) ผู้ฝึกสอนเข้มงวดมากเกินไป จนสร้างความกดดันและความเครียดให้กับผู้ออกกำลังกาย


3) การอ่อนล้า ปวดเมื่อย บาดเจ็บสะสมเรื้อรัง


ภาวะตึงเครียดของร่างกายที่เกิดจากออกกำลังกายมากเกินไป จะแสดงอาการทั้งหมด 3 ระยะ


ระยะที่หนึ่ง ระยะนี้ดูไม่ค่อยออก ส่วนใหญ่มักเป็นอาการปวด และผลการตรวจเลือดยังปกติ
- เจ็บปวดกล้ามเนื้อ
- ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หรือผู้หญิงมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ความรู้สึกทางเพศลดลง
- จิตใจหดหู่ กังวล วิตก
- นอนไม่หลับ


แก้ไข ปรับลดชั่วโมงการออกกำลังกาย ให้ได้มีสัปดาห์พักผ่อน แต่สามารถออกกำลังกาย แบบเบาๆ เช่น แอโรบิค ได้




เครียดจากการออกกำลังกาย

ระยะที่สอง ส่วนใหญ่พบในคนยกน้ำหนักหรือวิ่งเร็ว นิยมออกกำลังกายแบบใช้แรงระเบิด ตลอดเวลา ร่างกายอยู่ในภาวะแอนนาแอโรบิค (Anaerobic)
- อยู่ไม่นิ่ง ออกกำลังแบบใช้แรงระเบิดตลอดเวลาได้เรื่อยๆ
- นอนไม่หลับ
- น้ำหนักไม่ลด บางรายเพิ่มขึ้น เพราะเพิ่มยิ่งออกกำลังกายก็ยิ่งหิว ร่างกายต้องการอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตตลอดเวลา
- ตรวจเลือดพบฮอร์โมน Cortisol สูงมาก


แก้ไข ต้องพักอย่างน้อย 3 สัปดาห์ แต่สามารถออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น แอโรบิค ได้ แบบเบาๆ เช่น แอโรบิค ได้




เครียดจากการออกกำลังกาย

ระยะที่สาม เกิดความเครียดต่อร่างกายเรื้อรังอาจลามไปสู่สมอง กล้ามเนื้อเผาผลาญไม่สมดุล ตับอักเสบเป็นพิษเพราะร่างกายหลั่งกรดแลคติคเกินปกติ อาการคล้ายระบบ แอโรบิคทำงานไม่สมบูรณ์ รู้สึกเหนื่อยล้ามากตลอดเวลา เช่น เหนื่อยง่ายแค่เดินขึ้น บันไดระยะสั้นๆ


แก้ไข หากอาการหนักมากต้องรักษาด้วยการฉีดฮอร์โมน Testosterone ระยะยาว และ รับประทานโปรตีนจากธรรมชาติ ผัก ผลไม้ และออกกำลังกายแบบแอโรบิค เพื่อให้ ร่างกายกลับมาอยู่ในระยะแอโรบิคแทนระยะแอนนาแอบิคตลอดเวลา หยุดพักการ ใช้ร่างกาย และเจาะเลือดตรวจระดับฮอร์โมนและผลเม็ดเลือดเป็นหลัก

การออกกำลังกายมีผลช่วยลดความเครียด ส่งผลให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง แต่หากหักโหมเกินไป เมื่อร่างกายรับไม่ไหวจะส่งผลให้เกิดความเครียดสะสมต่อร่างกายได้เช่นกัน สิ่งสำคัญ คือ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ค่อยเป็นค่อยไป และมีวินัย จึงถือว่าเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายในระยะยาว



หมายเหตุ
การออกกำลังกายแบบแอโรบิค เป็นการออกกำลังกายที่ใช้กำจัดของเสีย คือ กรดแลคติค ได้ หากร่างกายสะสมกรดแลคติคมากเกินไป ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะเครียดตลอดเวลา






  • ค้นหาแพทย์และนักบำบัด
  • โทรนัดหมายแพทย์
  • ติดต่อสอบถาม