ขับเคลื่อนชีวิต...ด้วยมิตรภาพภายใน


แพทย์หญิงอังคณา อัญญมณี
จิตแพทย์ โรงพยาบาลมนารมย์

การใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันที่มีความวุ่นวายและรีบเร่ง โลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส อาจทำให้สมองของคุณถูกอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวต่างๆ แต่หัวใจคุณกลับว่างเปล่าและอ่อนล้า คนส่วนใหญ่พยายามหาโอกาสเติมพลังให้ตนเอง หลายคนบอกว่า“ฉันดูแลตัวเองแล้วนี่..... ดูแลอย่างดีมากๆ ด้วย..... แล้วทำไมฉันยังรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน” นั่นอาจเป็นเพราะคุณดูแลตนเองโดยการแสวงหาสิ่งภายนอกที่คุณคิดว่าจะเติมเต็มความสุขให้กับตนเอง เช่น ให้ตนเองได้รับประทานอาหารอร่อยๆ ไปเดินช้อปปิ้งชุดสวยๆ สักชุด ไปเข้าสปาผ่อนคลายร่างกาย หรือไปท่องเที่ยวในสไตล์ที่ชอบ การทำสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีและทำได้ เพราะแสดงถึงความรักและความใส่ใจที่คุณมีให้ตนเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณมีพลังขึ้นได้จริงๆ แต่คงไม่มีใครสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ทุกครั้งที่ใจปรารถนา หรือบางคนก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริงแม้กำลังทำสิ่งที่ชอบอยู่ เพราะใจของเขาถูกควบคุมโดยบางสิ่ง แล้วคุณจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อคลายความอ่อนล้าและเติมพลังให้แก่จิตใจอย่างง่ายๆ ในทุกๆ วัน


1. สำรวจชีวิต : ทุกวันนี้อะไรเป็นพลังขับเคลื่อนในชีวิตของคุณ ความคาดหวัง 2 ประการ ที่พบบ่อยว่าทำให้เกิดความเหนื่อยล้าในชีวิต ได้แก่



• ความต้องการให้คนอื่นพอใจและยอมรับ (Please others)
หลายคนยอมให้ความคาดหวังของพ่อแม่ เพื่อน เจ้านาย คู่ครอง หรือลูกๆ ควบคุมชีวิตของเขา ทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยกับการตอบสนองความต้องการของทุกๆ คน ในวัยเด็กพ่อแม่ของเขาอาจไม่เคยแสดงความพึงพอใจต่อลูก จึงส่งผลอย่างมากต่อการรับรู้ของลูก เพราะเขาจะรับรู้ว่าเขาไม่เป็นที่ยอมรับ เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อได้รับการยอมรับ เมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่นเขาก็ต้องการการยอมรับจากเพื่อน จึงมักจะถูกเพื่อนเอาเปรียบ เมื่อเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องการการยอมรับจากหัวหน้า คู่ครองและลูกๆ เขามักกังวลอยู่เสมอว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเขา ทำให้เขาละเลยความต้องการที่แท้จริงของตนเองและไม่สามารถใช้ชีวิตที่มีอิสระได้อย่างแท้จริง

แนวทางการใช้ชีวิต

• ความต้องการความสมบูรณ์แบบ (Be perfect)
ความปรารถนาที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้ดีเป็นสิ่งที่อยู่ในใจมนุษย์ทุกคน แต่อย่าลืมความจริงที่ว่า เราแต่ละคนล้วนมีความจำกัดไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง การที่เราคาดหวังให้ตนเองหรือผู้อื่นเป็นหรือทำใน สิ่งที่เราคิดว่าครบสมบูรณ์ จึงมักนำมาซึ่งความผิดหวังและการถูกตัดสิน


เมื่อสิ่งที่เราทำไม่สำเร็จดังที่เราต้องการ เราอาจโกรธตนเอง เกิดความรู้สึกผิดและความเศร้า ตามมาด้วยการตัดสินตนเองว่า “ฉันไม่ดีพอ” เราอาจพยายามทำสิ่งต่างๆ มากขึ้นเพื่อให้ได้ผลที่ดีกว่าเดิม แต่กลับยิ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าเพราะทำเท่าไรก็ไม่เคยดีพอเสียที


เมื่อคนอื่นทำสิ่งที่เราคาดหวังไม่สำเร็จ เราอาจรู้สึกโกรธเขา ไม่พอใจเขา เราตัดสินคนรอบตัวว่า “เขาไม่ดีพอ” ใจเราจึงมีแต่ความขุ่นเคืองและแสดงความไม่พอใจผู้อื่นอยู่เสมอ จนทำให้คนรอบข้างถอยห่าง เพราะไม่มีใครอยากถูกตำหนิบ่อยๆ


หากคุณมีความคาดหวัง 2 ประการนี้ขับเคลื่อนชีวิตอยู่ ชีวิตของคุณอาจพบแต่ความเหนื่อยล้าที่ไม่จบสิ้น ดังนั้นคุณจำเป็นต้องตัดสินใจว่าคุณจะให้สิ่งนี้ขับเคลื่อนชีวิตคุณต่อไปหรือจะวางความคาดหวังนี้ลง และเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงจากวิถีชีวิตที่คุณเคยชินมาสู่วิถีใหม่


แนวทางการใช้ชีวิต

2. สร้างมิตรภาพใหม่ในใจคุณ เมื่อคุณเข้าใจถึงสิ่งที่เคยขับเคลื่อนชีวิตคุณ ซึ่งอาจเป็นความคาดหวังที่เกินความเป็นจริง หรือความรู้สึกด้านลบทั้งหลายที่เกิดขึ้นเมื่อคุณผิดหวัง ขั้นตอนต่อไปนี้คือการลงมือทำเพื่อสร้างความสัมพันธ์แบบใหม่กับตนเอง



ให้เวลาที่จะดูแลตนเองด้วยความเมตตาและอ่อนโยน ส่งความรักให้กับตนเอง รู้สึกยอมรับตัวตนของคุณอย่างที่คุณเป็น ชื่นชมในส่วนดีและความตั้งใจดีๆ ของคุณ (แม้ผลจะออกมาดีหรือไม่ก็ตาม) ให้อภัยในส่วนที่เคยผิดพลาดซึ่งคุณไม่ได้ตั้งใจ มีความหวังที่ดีต่อตัวคุณเองและให้โอกาสใหม่แก่ตัวคุณเอง ในทุกๆ วัน


จัดการประสบการณ์ที่ยังค้างคาใจ โดยเรียนรู้จากประสบการณ์นั้น มองแง่มุมที่ดีที่เป็นประโยชน์และมีส่วนเสริมสร้างคุณ ขอบคุณประสบการณ์นั้น และบอกลาจากกันด้วยดี



ถ้าคุณได้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ชีวิตคุณจะมีอิสระและเต็มไปด้วยความสงบสุขภายในใจ คุณจะเป็นคนใหม่ที่มีพลังมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้พลังนี้คงอยู่กับคุณไปนานๆ คือ การให้เวลาดูแลความสัมพันธ์กับตนเองอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วันเพื่อให้มิตรภาพอันงดงามนี้คงอยู่ต่อไป



แนวทางการใช้ชีวิต

3. ใช้ชีวิตอย่างมีสติกับปัจจุบัน

การมีชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ลบในอดีต...จะฉุดรั้งคุณไม่ให้มีชีวิตอย่างอิสระในวันนี้

การมีชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยความกังวลถึงอนาคต...จะขัดขวางคุณไม่ให้มีพลังที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า

การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติจึงเป็นสิ่งสำคัญ...เพราะสติเปรียบเสมือนเพื่อนที่จะช่วยปกป้องคุณไม่ให้จมลงสู่ห้วงความคิดและอารมณ์ที่เป็นลบ



การใช้ชีวิตอย่างมีสติ คือ การรับรู้ในทุกขณะว่าตอนนี้คุณกำลังทำอะไร ทำเพื่ออะไร และเห็นคุณค่าของสิ่งที่คุณทำอยู่ เห็นคุณค่าของความตั้งใจดีที่อยู่ในตัวคุณ และเห็นคุณค่าของทุกสรรพสิ่งที่ รายล้อมรอบตัวคุณ เมื่อใจคุณสัมผัสถึงคุณค่าของสิ่งต่างๆ แล้ว คุณจะรู้สึกขอบคุณและพึงพอใจกับชีวิต และสิ่งนี้จะเป็นพลังภายในที่คอยขับเคลื่อนชีวิตของคุณต่อไป



สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจและอวยพรให้คุณมีชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง ไม่ว่าวันนี้คุณจะอยู่ในสถานะใดหรือต้องเผชิญสถานการณ์ที่ทุกข์ยากเพียงใด คุณจะผ่านไปได้อย่างแน่นอน เมื่อคุณได้หันกลับมาดูแลใจคุณอย่างแท้จริง ด้วยความเมตตาและอ่อนโยน




  • ค้นหาแพทย์และนักบำบัด
  • โทรนัดหมายแพทย์
  • ติดต่อสอบถาม