นายแพทย์วศิน บำรุงชีพ
จิตแพทย์ โรงพยาบาลมนารมย์
ชีวิตในปัจจุบันเป็นชีวิตที่เร่งรีบ เร่งด่วน จนทุกคนเคยชินกับความรีบร้อน ใจร้อน รอคอยไม่เป็น ไม่อดกลั้น อดทน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาได้หลากหลาย
ได้แก่ การเกิดอุบัติเหตุทางถนน ความผิดพลาดในงาน ข้อขัดแย้งในสัมพันธภาพ ทะเลาะเบาะแว้ง ลงไม้ลงมือ และภาพที่เห็นอยู่เป็นประจำ
คือ หงุดหงิด เครียด ก็หยิบบุหรี่มาสูบอัดเพื่อคลายเครียดทันทีทันใด หรือดื่มสุราหลังเลิกงาน จนติดเป็นนิสัยและเสพติด
สิ่งที่แย่กว่านั้นบางคนใช้ยาเสพติดชนิดต่างๆ เพื่อให้ผ่อนคลายหรือมีความสุขชั่วขณะ บางคนเล่นการพนัน ช้อปปิ้งออนไลน์ การกระทำซ้ำๆ
เป็นการสร้างการเรียนรู้ ความจดจำในสมอง จนเรียกว่า “สมองเสพติด”
คนทั้งหลายเหล่านี้มักเป็นคนที่ไม่อดทนอดกลั้น อดใจรอไม่เป็น รวมทั้งควบคุมอารมณ์และความอยากของตนได้ไม่ดี เมื่อโกรธ โมโห หงุดหงิด
ผิดหวัง เบื่อ เหงา เศร้า เซ็ง ก็ต้องการให้รู้สึกดีขึ้นทันทีทันใด จึงทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวข้างต้นจนเสพติด
แล้วจะทำอย่างไรดีเพื่อจะมีความอดทน อดกลั้น อดใจรอ ควบคุมอารมณ์ และความอยากได้เป็นอย่างดี
จริงๆ แล้วทุกคนถูกฝึกฝนสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก เราถูกฝึกให้กลั้นปัสสาวะและขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง รับประทานอาหารเป็นเวลา
อดทนรอเมื่อหิว ก่อนที่พ่อแม่จะจัดอาหารให้รับประทานบนโต๊ะอาหาร ตื่นและเข้านอนเป็นเวลา การฝึกต่างๆ เหล่านี้เป็นพื้นฐานของการอดทนอดกลั้น
อดใจรอ การฝึกต้องสม่ำเสมอและย้ำซ้ำๆ ในเด็กให้จดจำ
ปัจจุบันบางครอบครัวได้ละเลยการฝึกต่างๆ เหล่านั้นไป เนื่องจากมีตัวช่วย เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่เด็กไม่ต้องฝึกกลั้นปัสสาวะ
จะปัสสาวะหรืออุจจาระเมื่อไหร่ก็ได้ เด็กบางคนใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปจนเรียนชั้นประถม นอกจากนั้นบางครั้งยังส่งเสริมหรือสร้างเงื่อนไขผิดๆ
เช่น เปิดยูทูบให้ลูกดูเพื่อให้เด็กรับประทานอาหาร (ถ้าไม่เปิดเด็กไม่รับประทานอาหารหรือกรีดร้อง) หรือเดินป้อนอาหารเด็กเป็นชั่วโมง
พฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ทำให้เด็กไม่รู้จักการอดกลั้น ต้องทำตามใจตนเองเดี๋ยวนี้ทันทีทันใด จนติดเป็นนิสัย
เมื่อไปโรงเรียนคุณครูก็มีการฝึกให้อดทนอดกลั้น ในการยืนเข้าแถวเข้าคิวในการรับประทานอาหาร หรือสำรวมขณะเข้าแถวหรืออยู่ในห้องเรียน
ห้องประชุม ชั่วโมงลูกเสือหรือเนตรนารีก็เรียนรู้การควบคุมตนเอง ช่วยเหลือกันเป็นหมู่คณะ ถูกทำโทษเป็นหมู่คณะเมื่อทำผิด ชั่วโมงพละศึกษาได้สอนให้รู้จักแพ้
ชนะ อภัย อดทนรอคอยเมื่อยังไม่ถึงคิวที่จะลงเล่นกีฬาชนิดต่างๆ การฝึกเหล่านี้ทำให้เด็กได้เรียนรู้การอดทนอดกลั้น อดใจรอ การควบคุมอารมณ์และความอยาก
ซึ่งพ่อแม่ต้องให้ความสำคัญกับการฝึกอย่างสม่ำเสมอและเป็นตัวอย่างให้กับเด็กด้วย
เมื่อเริ่มเป็นวัยรุ่นมีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่ได้ฝึกความอดทนอดกลั้น อดใจรอ ควบคุมอารมณ์และความต้องการที่ดี
ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว การจัดการตนเองเมื่อเผชิญกับสิ่งยั่วยุต่างๆ จะเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง
ฮอร์โมนเพศมีผลกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ วัยรุ่นที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์และความอยาก ก็จะทำให้เกิดปัญหาการมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม
ใช้อินเตอร์เน็ตติดต่อกันในเรื่องเพศ นอกจากนั้นฮอร์โมนเพศมีผลต่ออารมณ์แปรปรวน ก้าวร้าว ท้าตี ท้าต่อย ถ้าวัยรุ่นไม่มีความอดทนอดกลั้นก็จะทำให้เกิดปัญหาดังที่พบอยู่บ่อยๆ
ไม่เพียงการทำร้ายร่างกายกัน แต่เมื่อเครียด หงุดหงิด ก็จะหายาเสพติดมาช่วยให้มีความสุขชั่วคราว
ดังนั้นในช่วงวัยรุ่นต้องฝึกตนเองให้มากขึ้น ต้องเข้มแข็งที่จะปฏิเสธถ้าเพื่อนชวนไปในทางที่ไม่ดี มีความคิดวิ เคราะห์ และวิจารณญาณในการเลือกสิ่งดีๆ
ให้ชีวิต ถึงแม้มีความอยากรู้อยากลองในอบายมุขต่างๆ ก็ต้องระงับใจ อดกลั้นให้ได้ ซึ่งพ่อแม่ของวัยรุ่นต้องรับฟัง แลกเปลี่ยนความเห็นกับลูก
รวมทั้งเล่าประสบการณ์การจัดการตนเองที่ดีให้วัยรุ่นเข้าใจและปฏิบัติได้ การชักชวนให้วัยรุ่นได้เล่นกีฬา มีงานอดิเรกที่ถนัด
ก็จะช่วยส่งเสริมให้วัยรุ่นมีความมั่นใจ ภูมิใจในตนเองที่ประพฤติดี
เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เริ่มทำงาน ประกอบสัมมาชีพ ต้องเรียนรู้ความอดทน อดกลั้น ปฏิเสธอบายมุข ควบคุมอารมณ์และความต้องการ ไม่ประพฤติผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดี
ถึงแม้มีสิ่งแวดล้อมที่ยั่วยุให้กระทำไม่ดี รวมทั้งการติดต่อสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย เพียงเพื่อแสดงออกทางอารมณ์หรือความต้องการโดยไม่จำเป็น