พญ.จันทิมา องค์โฆษิต ไกรฤกษ์
ประธานกรรมการ โรงพยาบาลมนารมย์
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ คอลัมน์ : HR & Management
เชื่อได้ว่าร้อยทั้งร้อย องค์กรหรือบริษัท ต่างอยากได้คนที่ “ใช่” เข้ามาร่วมงาน คำว่า “ใช่” ในที่นี้ครอบคลุมหลายเรื่อง แต่หลักๆ
ก็คือ เรื่องของทักษะความสามารถในตำแหน่งหน้าที่ที่รับผิดชอบ รวมถึงแนวคิดที่ต้องสอดคล้องต่อค่านิยมวัฒนธรรมขององค์กรที่ปลูกรากฝังลึกกันมายาวนาน
หากแต่ การคัดเลือกคนที่ กลับไม่ใช่เรื่อง “ง่าย” คำถามก็คือ ปัญหาดังกล่าวนั้น มีตัวช่วยหรือไม่อย่างไร ?
เป็นที่มาของการเปิด “ศูนย์ทดสอบจิตวิทยาเพื่อการบริหาร” ของโรงพยาบาลมนารมย์
แพทย์หญิง จันทิมา องค์โฆษิต ไกรฤกษ์ ประธานกรรมการโรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากโรงพยาบาลมนารมย์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนด้านสุขภาพจิตแห่งแรกของประเทศไทย
การก่อตั้งโรงพยาบาลจึงมีความพิถีพิถันและวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบทุกแง่มุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านทรัพยากรบุคคล
“งานของโรงพยาบาลเรา ก็คือ การให้บริการแก่ผู้มีปัญหาด้านสุขภาพจิต นอกจากคุณสมบัติและความสามารถเหมาะสมแล้ว ยังต้องมีความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่
อีกทั้งทัศนคติและบุคลิกภาพก็เป็นส่วนสำคัญในการคัดเลือกพนักงานเนื่องจากคนคือต้นทุนที่มีค่า การลาออกของพนักงาน 1 คน สามารถสร้างความสูญเสียได้มากมาย”
จึงมีการพัฒนา “แบบทดสอบจิตวิทยาเพื่อการบริหาร” หรือเรียกง่ายๆว่า แบบทดสอบสำหรับคัดเลือกพนักงาน เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่สามารถรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมกับงานและวัฒนธรรมขององค์กร
เพื่อลดปัญหาพนักงานลาออก และทำให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดต้นทุน และช่วยให้พนักงานได้ทำงานอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น
“หากเลือกผู้ที่ไม่เหมาะสมเข้ามาปฏิบัติงานเป็นการสร้างความเสียหายหลายด้านทั้งเวลาและงบประมาณในการฝึกฝน อีกทั้งหากผู้นั้นมีทัศนคติที่ไม่ดี
ก็อาจใช้คำพูดหรือพฤติกรรมสร้างความไม่สบายใจให้แก่เพื่อนร่วมงาน และเมื่อลาออกไปก็จะเกิดปัญหากับพนักงานคนอื่นๆ ที่ต้องรับภาระหนักขึ้น”
แพทย์หญิงจันทิมา กล่าวว่า โจทย์ในการออกแบบแบบทดสอบจิตวิทยาฯ มีการคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 ข้อ ที่สอดคล้องกับงานหลักของโรงพยาบาลมนารมย์ซึ่งเป็น”งานบริการ”
ได้แก่
1. สมรรถภาพในการทำงานขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะมีแบบทดสอบสมรรถภาพเบื้องต้น ที่นำมาใช้ในการคัดกรองพนักงานที่สมัครงาน เพื่อวัดความสามารถในการฟัง
การสังเกต การคิดอย่างมีเหตุผล และความสามารถในการทำตามคำสั่งของผู้รับการทดสอบ การทดสอบในระดับนี้ช่วยให้คัดผู้ที่คุณสมบัติไม่ใช่การออกไปได้ถึงร้อยละ
30 อีกทั้งยังสามารถใช้ทดสอบได้ทุกตำแหน่ง ทำให้การสรรหาทรัพยากรบุคคลสามารถทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. ความสามารถด้านการเรียนรู้และเชาว์ปัญญา โดยใช้แบบทดสอบความสามารถด้านการเรียนรู้และเชาว์ปัญญา (Cognitive Ability Test) ประเมินความรู้
ความสามารถ สติปัญญา และ 8 องค์ประกอบ ต่างๆ ของเชาว์ปัญญา ที่ทางมนารมย์แยกศึกษาไว้ รวมทั้งความสามารถในการแก้ไขปัญหาของผู้รับการทดสอบ
แบบทดสอบชุดนี้ จะใช้เวลา 20 นาที ซึ่งผู้บริหาร รพ.มนารมย์มั่นใจว่าเป็นการประเมินที่เที่ยงตรง เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพโดยไม่ถูกจำกัดด้วยระดับการศึกษา
เชื้อชาติ และวัฒนธรรม เพื่อเลือกหาพนักงานระดับเชาว์ปัญญาและองค์ประกอบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับลักษณะงาน
3. บุคลิกภาพ ที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่และพร้อมเผชิญหน้ากับปัญหาใหม่ๆ อีกทั้งมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สามารถเข้ากับผู้อื่นได้ดี
มีความอบอุ่น ซึ่งมี แบบทดสอบบุคลิกภาพ (Personality Test) และใช้เวลา 30-40 นาที ประเมินบุคลิกภาพที่มีความสัมพันธ์ต่อความสำเร็จในการปฏิบัติงาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับบริหาร ซึ่งมีการประเมินเชิงลึกมากยิ่งขึ้นถึงความเป็นผู้นำและสภาวะทางจิตใจ อารมณ์ แนวคิด กระบวนการแก้ไขปัญหาและความคิดสร้างสรรค์
ซึ่งผลจากการทำแบบทดสอบจะช่วยในการตัดสินใจมอบหมายตำแหน่งหน้าที่งานได้อย่างเหมาะสม
“บุคลิกภาพและทัศนคติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากการสัมภาษณ์พูดคุย จึงคิดว่านำแบบทดสอบจิตวิทยาฯ มาใช้พิจารณาคัดเลือกบุคลากรแทนการพิจารณาจากคุณสมบัติด้านการศึกษาเพียงอย่างเดียว”
แพทย์หญิงจันทิมา อธิบายเพิ่มเติมว่า การใช้แบบทดสอบจิตวิทยาฯ ช่วยคัดเลือกบุคลากรประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการโรงพยาบาลจนถึงปัจจุบัน
และด้วยการใช้แบบทดสอบฯ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถคัดสรรพนักงานที่เหมาะสม ลดปัญหาพนักงานลาออกบ่อย อีกทั้งพนักงานยังมีความรักองค์กรเป็นอย่างมาก
เนื่องจากได้รับการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพตามความเหมาะสม เพราะแบบทดสอบจิตวิทยาฯ สามารถระบุถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ
“ประโยชน์ของการทำแบบทดสอบจิตวิทยาฯ สามารถชี้ชัดได้ว่าบุคลากรมีความสามารถด้านการเรียนรู้ เชาว์ปัญญาและบุคลิกภาพเป็นอย่างไร
องค์กรจึงสามารถเลือกคนที่เหมาะสมและช่วยเสริมศักยภาพให้ได้อย่างเต็มที่เพื่อสามารถเติบโตไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้เป็นการสร้างความภักดีต่อองค์กรทั้งในยามเศรษฐกิจเฟื่องฟูหรือตกต่ำ”
ต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการพัฒนาแบบทดสอบจิตวิทยาเพื่อให้บริการแก่องค์กรภายนอก ปัจจุบัน โรงพยาบาลมนารมย์ ได้ก่อตั้ง ”ศูนย์ทดสอบจิตวิทยาเพื่อการบริหาร”
ซึ่งทำงานผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าผู้ใช้บริการภายนอก
นอกจากความรวดเร็ว แม่นยำ ในการวิเคราะห์ผลแล้วผู้ใช้บริการจะมั่นใจได้ว่าผลการวิเคราะห์มีความเชื่อมโยงกับบุคลิกภาพ ความรู้
ความคิดและทัศนคติที่แท้จริงของผู้ทดสอบ โดยที่ผู้ทดสอบไม่สามารถหลอกลวงหรือสร้างภาพด้วยการเลือกแต่คำตอบดีๆ ได้ เพราะการทดสอบจิตวิทยาของมนุษย์ได้ผ่านการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และสถิติวิเคราะห์ความเที่ยงตรง
และแม่นยำ มีประสิทธิภาพกว่าการใช้ความรู้สึกของมนุษย์สัมผัสและการตัดสินใจอย่างไม่มีตัวช่วย